Lovely Lady RPG: ชีวิตสาวทรานส์ผ่านเลนส์ของหนูน้อยตัวหนึ่ง

Content Warning: เนื้อหาในบทความและในเกมมีการพูดถึง gender dysphoria และ transphobia ส่วนตัวเกมมีเนื้อหาเหล่านี้พร้อมกับเรื่อง suicide depiction

เพื่อนๆ ที่เป็น cisgender หลายๆ คนก็เคยถามด้วยความเป็นห่วงและไม่รู้แหละว่า “มันเหนื่อยมากแค่ไหน” ซึ่งบางครั้งเวลาเราตอบเค้าก็จะเข้าใจแค่ครึ่งๆ กลางๆ ซึ่งตัวช่าก็ไม่ได้เบลมใครหรอก แหมะ คนไม่ได้เป็นอะนะ ไม่ว่ากัน แต่หลังจากได้เล่นเกมอินดี้สุดน่ารักเกมหนึ่งที่ได้ยกย่องว่าเป็น Disco Elysium ของสาวข้ามเพศ (และเฟอร์รี่ด้วย 555+) ตอนนี้ถ้าใครถามคำถามนี้ ช่ามีคำตอบใหม่ให้แล้ว

“เมิงไปเล่น Lovely Lady RPG เด่”

Lovely Lady RPG เป็นเกมแนว visual novel แบบ text-based ที่มาพร้อมกับภาพฉากสวยๆ สไตล์สีไม้ กับเพลงบรรเลงเบาๆ ชวนฝันในบรรยากาศยุค 1900s ต้นๆ ในสหราชอาณาจักรเวอร์ชั่น alt-history กับโลกที่ทุกคนเป็น furry ทั้งหมด

เราจะได้รับบทเป็นหนูสาวที่เป็น plural ชื่อว่า Ghost ที่ตื่นมาไร้ซึ่งความทรงจำ กับ Orb หุ่นยนต์ที่ตกลงมาจากนอกโลกแล้วพังหลังคาของ Ghost ไม่เหลือซาก (ก็ตกลงมาเนี่ยแหละที่อาจจะทำให้ Ghost โดน impact จนลืมความทรงจำเนี่ย!) พร้อมกับ headmates ทั้งสองอย่างของ Ghost:
Lovely Lady ตัวแทนความ feminine จ๋าที่สุดจะฟรุ้งฟริ้ง รักสะอาด เป็นเหมือนดัง “พี่สาว” ของ Ghost
Nasty Girl ที่เป็นหญิงห้าว หยาบคาย ขี้เงี่ยน เอาแต่ใจแต่ก็ยอม Ghost และ Lovely Lady เป็นดั่ง “น้องเล็ก” ของ system ของ Ghost ซึ่งช่าขอไม่พูดถึง plurality ของ Ghost เยอะ เพราะช่ามีความรู้ไม่พอจริงๆ ถึงแม้จะมีเพื่อนๆ หลาย systems ที่รู้จัก แต่ก็เชื่อว่าหลายๆ คนก็คงจะ relate อะไรได้

นี่คือคำแนะนำสั้นๆ ที่ช่าจะมอบให้ทุกคนเกี่ยวกับเกมนี้ได้ เพราะเกมนี้มันปลายเปิดมากๆ มี objective หลักอยู่อันเดียวก็คือว่า “ทำยังไงก็ได้ให้ซ่อมหลังคาให้เสร็จภายใน 4 วัน” แค่นั้นเลย

Lovely Lady RPG เป็นเกมที่ปลายเปิดจนไม่รู้ว่าจะปลายเปิดยังไงแล้ว ในแต่ละ playthrough ที่ช่าได้เล่น ช่าก็ได้เห็นความไม่เหมือนกันของ playthrough เหล่านั้น ด้วยความที่มีระบบทอยลูกเต๋าสุ่ม result คล้ายคลึงกับ Disco Elysium ไม่แนะนำให้ save scum แม้แต่นิด เพราะการที่เราทอยและ fail จะทำให้เราเห็นอะไรฮาๆ (และเศร้าจนร้องไห้) เยอะแยะมากมาย เราเชื่อว่า playthrough แรกของทุกคนจะไม่ซ้ำกัน

แต่มันมีสิ่งหนึ่งที่ไม่ว่าจะ playthrough อันไหน ของใคร ก็ต้องเจอในเกมนี้ นั่นก็คือ “gender dysphoria” หรือ “ความทุกข์ใจในเพศสภาพ” ในหลายๆ รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการโดนคนนอกด่าว่า “อีตุ๊ด” การไปหาหมอ การเจอคนในสังคมไม่ให้เกียรติอัตลักษณ์ทางเพศ หรือการที่ตัว Ghost เองกดดันตัวเองเรื่องว่าเธอยังเป็นผู้หญิงไม่พอ (internalised transphobia) กับการที่เธอ (และคนข้ามเพศหลายๆ ท่าน) ยังคิดว่า “ฉันยังใช่ไม่พอ” จากการที่สังคมรอบข้างนั้น set สแตนดาร์ดต่างๆ ไว้ ไม่ว่าจะเป็นหนวด เรื่อง body shape หรือเรื่องอะไรก็ตามแต่ที่แม้กระทั่ง cisgender หลายๆ ท่านก็ไม่อาจจะไปถึงสแตนดาร์ดเหล่านั้นได้ แต่การกดดันทางสังคมมันส่งผลกระทบต่อจิตใจของ Ghost และคนข้ามเพศทุกท่านไม่ว่าจะเล็กน้อยหรือมหาศาล

ความหนักหน่วงพวกนี้ก็ได้ถ่ายทอดออกมาพร้อมกับความอบอุ่นที่เหมือนเรามีคนกอดอยู่ตลอดเวลา เพราะสามสาวอย่าง Digital Poppy, Das Kunstkollektiv และ Mia Cain ก็ได้เขียนประสบการณ์เหล่านี้พร้อมด้วยความรักและความเข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง suicidal thoughts หรือ dysphoria พวกเธอก็ได้เล่าพวกมันผ่านความตลกร้ายที่ทำให้เราขำได้ทั้งน้ำตา อ่านเพลินกับภาษาที่เข้าใจง่ายแต่ใช้ได้อย่างชาญฉลาด อ่านแล้วไม่เบื่อ เล่นไปเพลินๆ สองสามรอบติดๆ กัน (รันนึงใช้เวลาคือประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง)

สิ่งที่ทำให้เรารู้สึกประทับใจมากๆ กับเกมนี้ก็คงจะเป็นความที่ตัว Ghost เองเป็นแค่หนูสาวตัวเล็กๆ ในโลก overworld ใหญ่ๆ และความที่ไร้ซึ่งพลังของเธอ ไม่ว่าจะเป็นทางการเงินหรือบริบทสังคม มันสะท้อนถึงความเป็นจริงของคน marginalised ที่ไม่ค่อยมีเสียงอะไรเยอะในสังคมที่กดขี่เรา เกมนี้มันเตือนให้ช่ารู้ซึ้งถึงการอยู่วันต่อวันของพวกเรา ที่ถึงแม้ว่าโลกมันจะเลวร้ายกับเราได้ขนาดไหน เราก็ต้องเตือนตัวเองไว้ว่าต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป

ในแต่ละรันเราก็จะมีเวลาไปเจอกับ NPCs มากมายที่น่ารักและน่ากอดไม่แพ้กัน ซึ่งเราก็จะได้ค้นพบว่าพวกเค้าก็พยายามมีชีวิตรอดเหมือนเรา ความน่ารักของเกมนี้ สำหรับช่าคือการที่เกมนี้สนับสนุนให้เราพยายามช่วยพวกเค้า เหมือนที่พวกเค้าก็พยายามจะช่วย Ghost เหมือนกันไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม มันย้ำเตือนว่าพวกเราทุกคนในโลกนี้ก็กำลังเผชิญกับปัญหามากมาย สิ่งที่พวกเราทำได้ก็คือการเกื้อกูลซึ่งกันและกัน การพยายามเข้าใจและให้เกียรติกัน

เพราะ "โลกมันร้ายพอแล้ว เราอย่าร้ายใส่กันต่อเลย"

ด้วยความที่ว่าเรามีเวลาจำกัดต่อการเล่นหนึ่งรอบ เราว่ามันเป็นอะไรที่จีเนียสมากที่ทำให้เราเล่นยังไงก็ทำคอนเท้นต์ไม่หมด ต้องมาเล่นใหม่เพื่อเจอทุกคนและทุกซีนาริโอ และเชื่อช่าได้เลยว่าพวกเค้าจะตกจนทำให้คุณอยากจะรู้เรื่องราวของพวกเค้ามากขึ้น
จนต้องกดเล่นใหม่จนกว่าจะเห็นจนครบ

นอกจากเนื้อเรื่องที่กินใจแล้วก็มีเพลงที่ฟังแล้วได้ความ nostalgic สุดๆ ตัว main theme มันทำให้เรารู้สึกตัวเล็กและเหงาได้ในเวลาเดียวกัน แถมยังมีเสียง ambient ที่ใส่เข้ามาได้ถูกจังหวะ โดยเฉพาะจังหวะตบมุกก็ใช้เสียงเพิ่มความฮาในฉากนั้นๆ ได้อย่างดีเยี่ยม

ส่วนงานวาดของเกมนี้นั้น มันสวยมากๆ ลายเส้นของการวาดและโทนสีที่ใช้มันช่วยเล่าเรื่องของ alt-history UK ได้อย่างดีเยี่ยม ชอบความที่สีมันติดน้ำตาลๆ มันดูทั้งสบายตาและมันมีความอบอุ่นอยู่ในนั้น โดยเฉพาะในฉากที่มีต้นไม้หรือทิวทัศน์ต่างๆ

ต่างกับซีนต่างๆ ที่เกิดขึ้นในหัวของตัว Ghost เอง ที่สไตล์การวาดและโทนสีจะเปลี่ยนไป ทำให้เราได้เห็นถึงความมืดหม่นในใจของเธอ สิ่งที่ Ghost เห็นมันมีความ “otherworldly” พอตัว ทำให้เรารู้สึกว่ามันเป็นอะไรทีหนักหนาและใหญ่สำหรับเธอมากๆ เห็นแต่ละครั้งก็อดส่งกำลังใจให้เธอไม่ได้ ซึ่งยิ่งเราเล่นซีนเหล่านี้ก็จะยิ่งน้อยลง สะท้อนถึงความรักและความอบอุ่นที่ Ghost ได้รับจากทุกคนไม่ว่าจะเป็น headmates ของเธอทั้งสอง และคนอื่นๆ ที่เธอจะได้พบในการผจญภัยทุกครั้ง

การเป็นคนข้ามเพศมันไม่ใช่เรื่องง่าย มันมีอุปสรรคมากมายไม่ว่าจะเป็นวงเล็กหรือวงกว้าง

เริ่มตั้งคำถามกับตัวเองที่ต้องตีกับความคิดตัวเองทุกวันว่า “ฉันเป็นใคร” “ฉันคิดถูกไหม” “ฉันเป็นได้จริงไหม” “ฉันแค่หลอกตัวเองและคนอื่นๆ” หรือถ้าจะให้เริ่มดาร์กกว่านั้นก็ “ทำไมฉันไม่เกินตรงเพศของฉัน” หรือ intrusive thought โหดร้ายอย่าง “ทำไมฉันแค่ไม่ไปเกิดใหม่ดูซักที”

ขยายออกไปนิด ก็จะเป็นการตีกับคนรอบข้างไม่ว่าจะเป็นในบ้านหรือนอกบ้าน คนที่ครอบครัวเข้าใจก็ดีไป แต่คนที่ครอบครัวไม่เค้าใจก็ต้องมาเลือกอีกว่า จะทิ้งครอบครัวและเลือกตัวเอง จะ prove ตัวเองให้เค้าเข้าใจ หรือจะอะไรยังไง
และยังมีวงนอกกว่านั้นไม่ว่า จะเป็นเพื่อนบางคนที่ห่างหายกันไปเลยก็มี หรือคนที่เข้าใจและรักเราแต่ดั้นไม่รู้จะดีลกับการเปลี่ยนแปลงของเรายังไง
ยังมีปัญหาเรื่องปากท้องและ workplace politics ที่อาจจะเจอคนนินทา หรืออีป้าๆ ข้างบ้านที่มีความคิดแบบไดโนเสาร์คอยกระแนะกระแหนจนในใจก็อดคิดไม่ได้ว่า “อย่าให้ลูกมึงเป็นนะเมิง”

ซูมออกอีกนิดก็การเมืองอีก ในโลกที่คน LGBTQ+ โดนโจมตีในการเมืองเกือบทุกวี่ทุกวันไม่ว่าจะเป็นในข่าวทีวี สื่อออนไลน์ หรือแม้กระทั่งประธานาธิบดีประเทศมหาอำนาจ ก็ทำตัวเหมือนอยากให้ “หายไป” ทั้งๆ ที่คนข้ามเพศมีไม่ถึง 1-3% ของประชากรในหลายๆ ประเทศโดยเฉลี่ย

ถึงแม้ว่ามันจะยากเย็นขนาดไหนแต่ช่าก็ภูมิใจมากๆ ที่ได้ค้นพบสิ่งที่ช่าเป็นจริงๆ ไม่ว่ามันจะมีความลำบากแค่ไหน ต้องใช้เวลาเท่าไหร่ หรือน้ำตาแต่ละหยด แต่ช่าก็รู้สึกว่ามันคุ้มค่ากับทุกหยาดเหงื่อที่เสียไป

Lovely Lady RPG เป็นเกมที่ทำให้ช่าได้เห็นตัวเอง และช่าก็เชื่อว่ามันจะทำให้คนอื่นๆ ทั้งคนข้ามเพศและคนที่เป็น cisgender ได้เห็นอะไรในตัวเองและคนอื่นๆ เพราะสิ่งที่เกมนี้จะมอบให้เราก็คือ empathy และ love ที่เราจะมอบต่อให้คนอื่นได้