บ่น-เยอะ: ว่าด้วยเรื่อง Assassin's Creed ที่ถูกยกเลิก
เมื่อช่วงเช้าทุกท่านน่าจะเห็นข่าวผ่านๆ ตา เกี่ยวกับเรื่องที่ Ubisoft ยกเลิกการพัฒนา Assassin’s Creed ภาคที่ใช้เซ็ตติ้งเป็นสหรัฐอเมริกายุคฟื้นฟูหลังสงครามกลางเมืองกันไปแล้ว ซึ่งเราก็ได้รับดีเทลคร่าวๆ ว่า ภาคนี้ตัวเอกเป็นคนดำที่เป็นทาส ที่หลบหนีจากตอนใต้ไปยังฝั่งตะวันตกเพื่อเริ่มชีวิตใหม่ และศัตรูที่เราจะได้ต่อสู้ด้วย คือกลุ่ม Ku Klux Klan ลัทธิคนขาวเหยียดผิวที่กำลังแพร่ระบาดในช่วงนั้น
ซึ่งจาก 3 แหล่งข่าวของเว็บไซต์ gamefile.news ได้มา ใจความสำคัญเกี่ยวกับการยกเลิกภาคนี้ ก็มีสองข้อใหญ่ๆ ข้อแรกคือ กระแสต่อต้านของชาวเน็ตต่อยาสึเกะตอนเปิดตัว Assassin’s Creed Shadows ในช่วงนั้น และ 2. กระแสด้านการเมืองในสหรัฐฯ ที่ตอนนี้ค่อนข้างเข้มข้นมากขึ้นกว่าเดิม
ซึ่งเอาจริงๆ ขนาดผมที่เป็นแฟนของซีรี่ยส์นี้ ผมก็ไม่แทบไม่ได้ยินข่าวเกี่ยวกับภาคนี้เลย ส่วนมากจะได้ยินข่าวเกี่ยวกับภาค Jade หรือ Project Hexe ที่เซ็ตติ้งเป็นยุคล่าแม่มดเสียมากกว่า ไอ้ภาคนี้ผมแทบจะไม่ได้ยิน จนมารู้ว่าถูกยกเลิกแล้วเนี่ยแหละ
ตอนที่เห็นข่าว ผมก็รู้สึกหงุดหงิดพอสมควร ซึ่งเหตุผลก็น่าจะรู้ๆ กัน (ถ้าคุณรู้จักผมและอ่านโพสท์ของผม ก็พอจะเข้าใจได้ไม่ยากว่าทำไม) แต่เมื่อลองมากรองๆ ดู ก็พอจะเข้าใจสาเหตุได้ “บ้าง” ว่า อาจจะเป็นเพราะกระแสการเมืองในสหรัฐฯ ช่วงนี้มันเอียงขวาจริงๆ จากการที่ทรัมป์ที่เป็นนักการเมืองขวาจัดขึ้นเป็น ปธน. และมันจะโยงไปเรื่องที่สองที่ผมพอจะสันนิษฐานได้ ว่าก็คงจะเกี่ยวกับ Tencent ที่ตอนนี้ขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ่นใหญ่ของบริษัทฯ ที่พยายามรักษาฐานลูกค้าที่ส่วนมากอยู่ในสหรัฐฯ เพราะหากยังทำเกมนี้ต่อไป กระแสต่อต้านจากชาวเน็ตก็คงจะรุนแรงไม่แพ้กับตอนยาสึเกะแน่นอน และอาจจะรุนแรงกว่าด้วยซ้ำ ก็เลยคิดว่าควรจะยกเลิกไปเลยดีกว่า แต่เอาเข้าจริง เราก็มีเกมอย่าง Indiana Jones and the The Great Circle ที่เราเล่นเป็นอินดี้ วิ่งไล่ต่อยไล่ยิงพวกนาซีแบบโจ๋งครึ่มมาแล้ว แถมก่อนหน้านี้ก็ยังมีเกม Red Dead Redemption 2 ที่มีภารกิจนึงให้เราไปยิงพวก 3K หรือแม้แต่เกมที่ผมว่า Relate เข้าเค้าสุดๆ ก็คือ Mafia 3 ที่ตัวเอกเป็นคนดำ และมีภารกิจนึงให้เข้าไปจัดการหัวหน้ากลุ่ม KKK ที่ตอนนั้นก็กำลังทำพิธีกันอยู่แบบชัดๆ ต่อให้เกมมันเลี่ยงบาลีด้วยการเรียกชื่อว่า Souther Union แต่การแต่งกายของสมาชิกในลัทธิก็ชัดเจนมากคือใส่ผ้าคลุมขาว หมวกทรงแหลมสีขาว เหมือนกันเดี๊ยะ
ซึ่งจากทั้งหมดทั้งมวล ก็ทำให้ผมหงุดหงิด และผิดหวังกับ Ubisoft พอสมควร ที่ตัดสินใจลงดาบไปแบบนั้น แต่ในบางมุมมอง ผมก็เข้าใจ “บ้าง” ว่าทำไมถึงต้องทำ มันไม่เกี่ยวว่ามันจะถูกต้อง ไม่ยัดเยียดหรืออะไร แต่ Ubisoft ก็น่าจะมีกึ๋น และความกล้ามากกว่านี้ แบบในอดีตที่ลองทำเกมแปลกๆ ออกมาลองตลาด ดีบ้างแป้กบ้างก็แล้วแต่ มันคือเสรีทางความคิดสร้างสรรค์ที่ผู้พัฒนาเกมควรจะต้องมีในขั้นต้น และผมมองว่า การมีอยู่ของยาสึเกะใน AC Shadows ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี
น่าเศร้าที่ Ubisoft ยังไม่กล้าพอที่จะขยับขาเดินก้าวต่อไป
