เพิ่งเล่นจบ #19: Duck Detective: The Ghost of Glamping



การกลับมาอีกครั้งของเป็ดหนุ่มนักสืบหน้าบูดกับจระเข้ทึ่มและคู่หูใสซื่อ ที่ต้องมา De-Duck ปริศนาสุดกวนกับคดีแคมป์ผีสิงที่ไม่ค่อยมีความน่ากลัว แต่มีความฮารอคุณอยู่
ซึ่งตัว Duck Detective เป็นแฟรนไชส์น้องใหม่ของค่ายเล็กๆ จากเมืองเบอร์ลินอย่าง Happy Broccoli Games ถ้าใครเคยเห็น Duck Detective: The Secret Salami ผ่านๆ ปีที่แล้วก็จะพอจำความกวนส้นเท้าของเกมนี้ได้และคงจะพอทราบว่ามันเป็นเกมสืบสวนแบบ point & click ที่เน้นการเล่าเรื่องที่สุดจะตลก

และภาคต่ออย่าง Duck Detective: The Ghost of Glamping ก็ไม่ได้เล่นต่างจากภาคแรกมาก ที่เพิ่มเติมขึ้นมาคือความฮาและความกวนบาทาของคู่หู่ดูโอถังแตก ไม่อยากให้พลาดถ้ามีเวลาสักสองชั่วโมงในการเล่นอะไรแบบเบาสมอง
The Detective Returns
เรื่องของเรื่องคือ Eugene นักสืบเป็ดผู้โชคร้าย ยังทำใจไม่ได้กับเรื่องที่โดนเมียทิ้ง (lore ไหมละ) ไม่ได้อาบน้ำอาบท่ามา 9 เดือนกว่าๆ อยู่ดีๆ ก็โดน Freddy เพื่อนจระเข้จอมทึ่มที่อยู่ด้วยกันชวนไปแคมป์ปิ้งหาผี (The Ghost ต้องเข้าแล้ว) แต่ที่ไหนได้ อีตา Freddy เอา Eugene ไปเที่ยวเป็นข้ออ้างไปหาแฟนสาวที่บังเอิญติดงานอยู่ที่สถานที่จัดแคมป์ผีสิง

ด้วยความที่มีสปิริตของ เอโดงาวะ โคนัน อยู่ในตัว ไปปุ๊ป เรื่องเกิดปั๊ป เริ่มตั้งแต่เก้าอี้ที่แคมป์โดนผีขโมยไป ลามไปถึงปัญหาความมั่นคงระหว่างประเทศ ซึ่งบทที่มันเริ่มจาก 0 ไป 100 ไป 1000 เกินเบอร์มันเข้ากับความฮาของเกมนี้มากๆ

และ narrative นี้มันเวิร์คมากๆ พอมีการพากย์เสียงดีๆ จากทีมพากย์มาเสริม ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนซี้ (เค้าชอบขี้หน้ากันจริงๆ ใช่ไหม) สองตัวหลักหรือตัวผู้ต้องสงสัยของภาคนี้ ที่แต่ละคนต้องบอกเลยว่า มีดีไซน์ที่เห็นทีเดียวจำได้ พร้อมกับคาแรคเตอร์ที่ไม่ซ้ำกัน ส่งผลให้เนื้อเรื่องและภาพรวมตัวเกมออกมานัวยิ่งกว่าแองเจลิก้า อาร์สยาม
Solving The Case
เพราะความที่เป็นเกมแนว point & click ตัวเกมเลยออกมาเข้าใจง่ายและเล่นสะดวก บางครั้งอาจจะรู้สึกว่ามันง่ายไป แต่นั้นไม่ใช่จุดขายหลักอยู่แล้ว

ตัวเกมจะให้เรา exhaust dialogue ทั้งหมด บังคับให้เราคุยกับทุกคน สำรวจทุกอย่างที่ขวางหน้า เพื่อที่จะหา keyword ไปทำเป็นข้อสันนิษฐานในกระบวนการสืบ อย่างเช่นสืบว่า ทำไมเมียเลิกกับเจ้าเป็ด Eugene เย้ย
มันไม่ได้แค่เป็น gameplay loop เข้าใจง่ายและตรงไปตรงมามาก แต่มันเป็นการชักชวนให้ผู้เล่นได้ interact กับโลกของเกมและตัวละครแต่ละครที่เขียนออกมามีมุกอันคมคาย ฟังเสียงพากย์ไปขำไป เราว่าเป็นอะไรที่ฉลาดในการชักชวนผู้เล่นให้สนใจกับโลกที่ทีมงานนั้นสร้างขั้นมา

พอเราได้ keyword แล้ว ก็ต้องเอาคำเหล่านี้มาประกอบกันเป็นข้อสันนิษฐาน อย่างที่บอกข้างต้น ไม่ได้ยากอะไรเลย แต่ว่าข้อสันนิษฐานแต่ละอันมันฮามาก เป็นเกมที่ไม่ได้มีความซีเรียสอะไรเลย
Short But Rewarding
ด้วยความที่ตัวเกมมันสั้นพอตัว (แค่เกือบๆ 2 ช่วงโมง เก็บครบทุก achievements) อาจจะไม่ได้มีอะไรฮือฮาและให้พิมพ์ลึกขนาดนั้น นอกจากจะให้สปอยทั้งเกม 555+ แต่เป็นอีกความประทับใจของปีนี้

แล้วความที่เป้าหมายของทีมงานคือการมีเกม Duck Detective ออกมา 1 เกมทุกปีในช่วงเดือนนี้ ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี จะรอเกมต่อไปปีหน้านะคะ day 1 แน่นอน
ถ้าใครมีเวลาว่างและงบ 200 บาท อาจจะตอบโจทย์ เหมือนซื้อตั๋วดูหนังตลก 1 เรื่องเลยค่า
🦆🦆🦆🦆🦆🦆🦆🦆/🦆🦆🦆🦆🦆🦆🦆🦆🦆🦆